ดาวน์โหลดฟรี
Free download whoscall app
Scan and Download Whoscall

ผลกระทบที่น่าตกใจของการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล: ข้อมูลที่ถูกขโมย ทำให้กลายเป็นเหยื่อไม่รู้ตัว

เตือนภัยกลโกง (Scam Alerts) จาก Whoscall
2024-08-28 | WhoscallTH

     
          การรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลกำลังกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้น โดยมีหลายบริษัทที่ตกเป็นเหยื่อของการโจมตีของแฮ็กเกอร์ ซึ่งทำให้บันทึกข้อมูลของลูกค้าหรือพนักงานนับล้านถูกเปิดเผย การรั่วไหลของข้อมูลหมายความว่าอย่างไร? การเข้าใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลใดที่อาจถูกเปิดเผยและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจะช่วยให้คุณระมัดระวังและปกป้องตนเองจากอันตรายต่อไปได้
         "ช็อก! ข้อมูลส่วนบุคคลกว่า 72 ล้านรายการถูกขายออนไลน์" "รหัสผ่าน หมื่นล้านรายการรั่วไหล" "บัญชีของคุณอาจถูกคุกคาม" "หน่วยงานทวงหนี้ระบุการรั่วไหลของข้อมูลที่มีผลกระทบมากกว่า 4 ล้านคน" "ข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล เงินออมทั้งธนาคารถูกขโมย" "บันทึกสมาชิกนับล้านที่ถูกปล่อยในเว็บมืด"—เหตุการณ์ที่น่าตกใจเหล่านี้เกิดขึ้นรอบตัวเราและเกี่ยวข้องโดยตรงกับการรั่วไหลของข้อมูล
         ผู้ไม่ประสงค์ดีหรือเหล่ามิจฉาชีพใช้วิธีการต่างๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ไม่ว่าจะผ่านกิจกรรมออนไลน์ของคุณหรือโดยการโจมตีฐานข้อมูลของบริษัท เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของคุณถูกเปิดเผยโดยไม่ตั้งใจหรือถูกแชร์โดยที่คุณไม่รู้ตัว นี่คือการรั่วไหลของข้อมูล การรั่วไหลของข้อมูลไม่เพียงแค่เกี่ยวข้องกับข้อมูลของคุณที่ถูกเปิดเผย มันสามารถถูกใช้ในทางไม่ดีและนำไปสู่ผลกระทบร้ายแรงต่อคุณได้ ตาม "รายงานการสำรวจความเป็นส่วนตัวทางดิจิทัลปี 2024" โดย U.S. News กว่า 60% ของชาวอเมริกันเคยประสบกับการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างน้อยหนึ่งครั้ง และเกือบ 50% เคยเจอสถานการณ์เช่นนี้หลายครั้ง อิงตามสถิติของสำนักงานสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐฯ คาดว่ามีประชาชนกว่า 200 ล้านคนในสหรัฐฯ ที่เคยประสบกับการรั่วไหลของข้อมูลและการขายข้อมูลส่วนบุคคลอย่างไม่ประสงค์ดี


อันตรายจากข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล: รู้ไว้ก่อนสาย!

คุณเคยนึกภาพไหมว่า ถ้าข้อมูลส่วนตัวของคุณหลุดออกไป จะเกิดอะไรขึ้น?
ลองคิดดู... ชื่อ เบอร์โทร ที่อยู่ เลขบัตรประชาชน ข้อมูลบัญชีธนาคาร รหัสผ่าน หรือแม้แต่ประวัติการช้อปปิ้งของคุณ ถ้าสิ่งเหล่านี้รั่วไหล คุณอาจเจอปัญหาใหญ่! มาดูกัน 6 เรื่องน่ากลัวที่อาจเกิดขึ้น เมื่อข้อมูลส่วนตัวของคุณถูกขโมย:

  1. การแฮ็กบัญชี: เมื่อรหัสผ่านบัญชีหนึ่งของคุณรั่วไหล ไม่ใช่แค่บัญชีนั้นที่เสี่ยง แต่ทุกบัญชีที่ใช้รหัสผ่านเดียวกันก็เสี่ยงด้วย ตัวอย่างเช่น หากแฮ็กเกอร์ได้รหัสผ่านของคุณสำหรับเว็บไซต์ช็อปปิ้ง พวกเขาอาจใช้ข้อมูลนี้เพื่อเข้าสู่ Facebook, WhatsApp, Instagram และอื่นๆ พวกเขาอาจใช้ตัวตนของคุณเพื่อโพสต์หรือส่งข้อความถึงเพื่อนๆ ของคุณ การหลอกลวงที่พบบ่อยคือการส่งข้อความฟิชชิ่ง

  2. การสูญเสียทางการเงิน: หากรายละเอียดบัญชีธนาคารของคุณรั่วไหล แฮ็กเกอร์สามารถเข้าถึงบัญชีของคุณและโอนเงินออกไปได้

  3. ทั้งการโทรก่อกวนและโทรมาหลอกขายของ: เตรียมใจรับสายได้เลย! เบอร์โทรหรืออีเมลหลุด? เตรียมรับมือกับสายโทรขายของและข้อความหลอกลวงที่จะถาโถมเข้ามา

  4. การโจมตี BEC หรือการละเมิดอีเมลระดับธุรกิจ: การรั่วไหลของข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทสามารถเปิดเผยความลับทางธุรกิจ แฮ็กเกอร์อาจใช้ที่อยู่อีเมลของคุณหรือข้อมูลประจำตัวของคุณเพื่อโจมตีเพื่อนร่วมงานของคุณ ทำให้เกิดความสูญเสียทางการเงินอย่างมากและทำลายชื่อเสียงของบริษัท

  5. การขโมยตัวตนและการฉ้อโกง: แฮ็กเกอร์สามารถใช้ข้อมูลประจำตัวและส่วนบุคคลของคุณเพื่อสร้างกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ เปิดบัญชีธนาคาร หรือสร้างโปรไฟล์โซเชียลมีเดียในชื่อของคุณ นี่อาจส่งผลเสียต่อคะแนนเครดิตของคุณ และหากบัญชีเหล่านี้ถูกใช้ในการกระทำผิดกฎหมาย คุณอาจเผชิญกับผลกระทบทางกฎหมายแม้คุณจะบริสุทธิ์

  6. หลอกลวงซับซ้อน: ระวังถูกหลอกแบบไม่รู้ตัว! มิจฉาชีพอาจใช้ข้อมูลคุณแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ เพื่อหลอกให้คุณบอกข้อมูลเพิ่มหรือโอนเงิน

วิธีเช็คว่าข้อมูลคุณรั่วหรือเปล่า: ลองใช้ "ข้อมูลรั่วไหม (ID Security)" ฟีเจอร์ของ Whoscall สิ! ฟรี และใช้ง่ายมาก

Whoscall “ข้อมูลรั่วไหม (ID Security)" หลังจากเรียนรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆ ของการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล คุณอาจกังวลเกี่ยวกับข้อมูลของคุณเอง คุณเคยประสบปัญหาใดๆ ข้างต้นและสงสัยว่าเกิดจากการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลหรือไม่? Whoscall เพิ่งเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ฟรีชื่อว่า “ข้อมูลรั่วไหม (ID Security)" ที่สามารถตรวจสอบได้ทันทีว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณถูกเปิดเผยหรือไม่

เพียงป้อนหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ แล้ว Whoscall จะค้นหาบันทึกที่เชื่อมโยงกับหมายเลขของคุณในเว็บไซต์ต่างๆ รวมถึงชื่อ ที่อยู่ บัญชี รหัสผ่าน หมายเลขโทรศัพท์ และอีเมล จากนั้นจะแจ้งเตือนให้คุณทราบเพื่อให้คุณสามารถดำเนินการป้องกันได้ทันท่วงที

👉 ติดตั้งฟรีและตรวจสอบข้อมูลของคุณตอนนี้ : https://app.adjust.com/1dzrm7nx

ด้วยฟีเจอร์ “ข้อมูลรั่วไหม (ID Security)" ของ Whoscall คุณยังสามารถค้นพบได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณรั่วไหลผ่านช่องทางใดและแพลตฟอร์มใด รวมถึง "เว็บมืด" ที่คุณอาจไม่คุ้นเคย

เข้าใจ "เว็บมืด" ง่าย ๆ เว็บมืดคือส่วนลับของอินเทอร์เน็ต ที่เข้าไม่ได้ด้วยเบราว์เซอร์ทั่วไป ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ เปรียบเหมือนมุมมืดที่ไม่มีใครเห็นหน้าตา IP ของกันและกัน

เว็บมืดมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือ แชร์ข้อมูลลับได้ พูดได้อย่างอิสระ แต่ข้อเสียคือ เป็นแหล่งซ่องสุมของอาชญากร รวมถึงการซื้อขายข้อมูลส่วนตัวด้วย

คิดง่าย ๆ ว่าเว็บมืดเป็นเหมือนตลาดมืดของแฮกเกอร์ ถ้าข้อมูลคุณอยู่ที่นั่น แสดงว่าอาจมีคนแฮ็กได้มาจากเว็บหลอกลวง ระบบบริษัท หรือฐานข้อมูลพนักงาน แล้วเอามาขาย ทั้งชื่อ เบอร์ ที่อยู่ บัญชีธนาคาร รหัสผ่าน อีเมล เลขบัตรประชาชน ประวัติช้อปปิ้ง ฯลฯ คนซื้อก็เอาไปปลอมตัวหรือโกงต่อได้

6 สาเหตุทั่วไปของการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล

แม้ว่าคุณจะระมัดระวังออนไลน์ คุณอาจสงสัยว่าทำไมฟีเจอร์ “ข้อมูลรั่วไหม (ID Security)" ของ Whoscall จึงระบุว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณรั่วไหล นี่คือ 6 สาเหตุทั่วไปของการรั่วไหลของข้อมูล:

  1. การแฮ็กบัญชี: เมื่อบัญชีใดบัญชีหนึ่งของคุณถูกแฮ็ก แฮ็กเกอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ รวมถึงชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ ที่อยู่อีเมล และแม้กระทั่งประวัติการช็อปปิ้งที่บันทึกในการตั้งค่าบัญชีและบันทึกที่ผ่านมา

  2. เว็บไซต์ฟิชชิ่ง: ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มิจฉาชีพใช้เทคนิคฟิชชิ่งมากขึ้นเพื่อโจมตีบุคคล พวกเขาแอบอ้างเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ช็อปปิ้งออนไลน์ หรือส่งการแจ้งเตือนปลอมจากหน่วยงานรัฐบาลหรือธนาคาร เป้าหมายของพวกเขาคือหลอกลวงให้คนใส่รายละเอียดบัญชี ข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อมูลบัตรเครดิตในเว็บไซต์ที่หลอกลวง

  3. การแชร์มากเกินไปบนโซเชียลมีเดีย: โซเชียลมีเดียเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการแชร์กับเพื่อนและคนแปลกหน้า อย่างไรก็ตาม การแชร์รายละเอียดส่วนบุคคลมากเกินไป—เช่น หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ตำแหน่งที่ตั้ง หรือรูปภาพโดยไม่ปกปิดข้อมูลสำคัญ—อาจทำให้รายละเอียดเหล่านี้เสี่ยงต่อการถูกแสวงหาประโยชน์จากผู้ที่มีเจตนาไม่ดี

  4. อุปกรณ์ที่หายไป: หากโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ของคุณตกไปอยู่ในมือผิด เจ้าของใหม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ไม่เข้ารหัสทั้งหมดที่บันทึกในอุปกรณ์ได้โดยตรง

  5. Wi-Fi ที่ไม่ปลอดภัย: สถานที่สาธารณะหลายแห่งมี Wi-Fi ฟรี แต่ต้องระมัดระวังเมื่อเชื่อมต่อ หากคุณเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ปลอมที่แฮ็กเกอร์ตั้งขึ้นโดยไม่ตั้งใจ พวกเขาสามารถติดตามกิจกรรมของคุณและขโมยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณขณะที่คุณเชื่อมต่อ

  6. มัลแวร์: เมื่อโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ของคุณติดมัลแวร์หรือไวรัสโดยไม่ได้ตั้งใจ แฮ็กเกอร์สามารถควบคุมหรือเฝ้าติดตามอุปกรณ์ของคุณได้โดยไม่ได้รับอนุญาต สิ่งนี้ทำให้พวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลของคุณหรือจับคีย์สโตรก

ขั้นตอนที่ต้องทำหากข้อมูลส่วนบุคคลของคุณรั่วไหล

การค้นพบว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณรั่วไหลอาจทำให้คุณกังวล แต่มีขั้นตอนที่คุณสามารถทำได้เพื่อลดความเสียหาย:

  • หากข้อมูลส่วนบุคคลของคุณรั่วไหล: หากข้อมูลประจำตัวและรายละเอียดการติดต่อของคุณรั่วไหล การระมัดระวังเป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากคุณอาจกลายเป็นเป้าหมายของการหลอกลวง มิจฉาชีพอาจใช้ข้อมูลนี้ในการแอบอ้างเป็นบริษัทหรือหน่วยงานรัฐบาลที่มีชื่อเสียงเพื่อหลอกลวงให้คุณเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อลดการติดต่อกับมิจฉาชีพและลดการโทรก่อกวน คุณสามารถใช้ Whoscall เพื่อตรวจสอบผู้โทรและบล็อกหมายเลขที่รบกวน

  • หากข้อมูลบัตรเดบิต/เครดิตของคุณรั่วไหล: ติดต่อธนาคารที่ออกบัตรทันทีเพื่อยกเลิกบัตรและขอเปลี่ยนใหม่ และรายงานเหตุการณ์นี้ต่อตำรวจทันทีเพื่อบันทึกการฉ้อโกงและปกป้องตนเองทางกฎหมาย

  • หากรหัสผ่านบัญชีของคุณรั่วไหล: เปลี่ยนรหัสผ่านทั้งหมดของคุณทันที ใช้รหัสผ่านที่แข็งแกร่งและไม่ซ้ำกันสำหรับแต่ละบัญชี และเปิดใช้งานการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA) หลังจากเปลี่ยนรหัสผ่านเพื่อเพิ่มความปลอดภัย

ทำอย่างไรถ้าข้อมูลรั่วไหล?

ถ้าข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล:

  • ระวังตัวให้มาก! คุณอาจเป็นเป้าหมายของมิจฉาชีพ

  • ใช้ Whoscall ช่วยกรองสายและบล็อกเบอร์กวนใจ

  • อัพเดทฐานข้อมูลเบอร์ใน Whoscall บ่อย ๆ เพื่อป้องกันเบอร์หลอกลวงใหม่ ๆ

ถ้าข้อมูลบัตรเครดิต/เดบิตรั่วไหล:

  • รีบโทรแจ้งธนาคารให้ระงับบัตรและทำบัตรใหม่

  • แจ้งความทันทีเพื่อเป็นหลักฐาน

ถ้ารหัสผ่านรั่วไหล:

  • เปลี่ยนรหัสผ่านทุกบัญชีทันที ใช้รหัสที่คาดเดายาก ๆ

  • เปิดใช้การยืนยันตัวตนสองชั้น (2FA) เพิ่มความปลอดภัย

วิธีป้องกันข้อมูลรั่วไหล:

  • ใช้รหัสผ่านแข็งแรงและเปิด 2FA

  • หลีกเลี่ยงเว็บแปลก ๆ ใช้ "Web Checker" ของ Whoscall ช่วยเช็ค

  • อัพเดทอุปกรณ์และแอปอยู่เสมอ

  • ใช้ Wi-Fi ที่ปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการเชื่อมต่อที่ไม่ปลอดภัย

  • ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัส

  • ระวังการแชร์ข้อมูลส่วนตัว

               ยุคดิจิทัลแบบนี้ การรั่วไหลของข้อมูลเป็นเรื่องปกติมากขึ้น ตรวจสอบบ่อย ๆ ว่าข้อมูลคุณปลอดภัยไหม และป้องกันไว้ก่อนดีกว่าแก้! การป้องกันเชิงรุกเป็นกุญแจสำคัญในการหลีกเลี่ยงการรั่วไหลของข้อมูลทั้งหมด กลยุทธ์การหลอกลวงพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว Whoscall พร้อมพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพื่อปกป้องคุณจากภัยออนไลน์เสมอ เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาการตรวจจับอัตโนมัติและการแจ้งเตือนเชิงรุก ขยายขอบเขตไปถึงอีเมลและพื้นที่อื่นๆ Whoscall มุ่งมั่นที่จะเป็นแอปป้องกันการฉ้อโกงสำหรับผู้ใช้มือถือ

ให้ Whoscall เป็นเพื่อนของคุณ

ติดตั้ง Whoscall เพื่อบล็อกการโทรรบกวนและเพิ่มความปลอดภัยส่วนบุคคล:

  • รู้ว่าใครโทรมา ก่อนรับสาย

  • ฟีเจอร์ ข้อมูลรั่วไหม ID Security: เช็คว่าข้อมูลคุณปลอดภัยไหม และรับการแจ้งเตือนล่วงหน้าและเพิ่มความปลอดภัยก่อนที่การหลอกลวงจะเกิดขึ้น

  • SMS Assistant: หลังจากอัปเกรดเป็น Whoscall พรีเมียม Whoscall จะจัดหมวดหมู่ข้อความของคุณโดยอัตโนมัติ กรองข้อความที่มีความเสี่ยงสูงเพื่อความสบายใจของคุณ!

  • URL Scanner: สแกน URL ให้รู้ว่าลิงก์ไหนปลอดภัย รับการประเมินความเสี่ยงเพื่อการเข้าเว็บอย่างไร้กังวล

👉 อัปเดต/ดาวน์โหลด Whoscall ทั้ง iOS และ Android ได้ที่นี่ : https://app.adjust.com/1dzrm7nx