โกงการลงทุนครองอันดับหนึ่งในการสร้างความเสียหายทางการเงินมาสามปีติดต่อกันแล้ว แม้แต่คนดังอย่างอีลอน มัสก์ก็ยังถูกแอบอ้างชื่อ กลโกงที่พบบ่อยได้แก่ การหลอกแบบ "ขุนให้อ้วนและชำแหละหมู (Pig Butchering Scam)" กลุ่มลงทุนปลอม และโฆษณาปลอมที่ใช้ดารา เรียนรู้วิธีสังเกตกลโกงเหล่านี้เพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อ!
กลโกงการลงทุนสร้างความเสียหายทางการเงินสูงสุดทั่วโลก
ตามข้อมูลของคณะกรรมาธิการการค้าแห่งสหรัฐอเมริกา (FTC) ผู้บริโภคในสหรัฐฯ รายงานการสูญเสียเงินจากกลโกงการลงทุนมากกว่า 4.6 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 ซึ่งสูงที่สุดเมื่อเทียบกับกลโกงประเภทอื่นๆ แนวโน้มที่น่าตกใจนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในสหรัฐฯ รายงานจาก ScamWatch ชี้ว่ากลโกงการลงทุนสร้างความเสียหายกว่า 292 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในออสเตรเลีย ส่วนในสหราชอาณาจักร ตามการวิจัยของ UK Finance พบว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 กลโกงการลงทุนสร้างความเสียหาย 57.2 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุดในบรรดากลโกงทั้งหมด
ต่างจากกลโกงขนาดเล็กอย่างการซื้อของออนไลน์หรือกลโกงประเภทอื่นๆ กลโกงการลงทุนมักเกี่ยวข้องกับเงินจำนวนมาก การตกเป็นเหยื่อของกลโกงเหล่านี้อาจทำให้สูญเสียเงินหลายพันหรือหลายล้านดอลลาร์ ส่งผลให้เกิดความเดือดร้อนทางการเงินอย่างหนักหรือเป็นหนี้ก้อนใหญ่
3 กลโกงการลงทุนที่พบบ่อย
1. กลโกงแบบขุนให้อ้วนและชำแหละหมู (Pig Butchering Scam):
มิจฉาชีพมักใช้โซเชียลมีเดียในการแสร้งเป็นเป็นมิตรและน่าดึงดูด - แสดงบทบาทเป็นคนรักที่ร่ำรวยและมีเสน่ห์ พวกเขาอาจแสดงตัวเป็นคนมีตำแหน่งสูง เช่น นักการทูตต่างชาติหรือหมอ เพื่อหลอกว่าทำไมถึงไม่สามารถพบกันตัวต่อตัวได้ เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาจะสร้างความไว้วางใจด้วยการแชร์รูปและเรื่องราวส่วนตัว รวมถึงความสำเร็จทางการเงินที่เขามี
เมื่อสร้างความไว้วางใจได้แล้ว พวกเขาจะเสนอ "โอกาสการลงทุนที่ยอดเยี่ยม" เพื่อล่อให้เหยื่อลงทุนในแพลตฟอร์มปลอมหรือโอนเงินให้โดยตรงเพื่อเก็บออมร่วมกันเป็นคู่ เทคนิคนี้เรียกว่า "ขุนให้อ้วนและชำแหละหมู (Pig Butchering Scam)" ซึ่งเป็นการทำให้เหยื่อ "อ้วนพี" ขึ้นด้วยการหลอกล่อทางอารมณ์และจิตใจก่อนที่จะลงมือหลอกเอาเงิน ต่างจากกลโกงแบบฉับพลันทันที
ตัวอย่างแชท ที่หลอกให้รัก เชื่อใจและลงทุน
ที่มา: Reddit
2. กลุ่มลงทุนปลอม - สูบและทิ้ง
คุณเคยได้รับข้อความแบบนี้ไหม: "รวยเร็วด้วยเคล็ดลับหุ้นพิเศษของเรา!" หรือ "เข้าร่วมตอนนี้เพื่อเข้าถึงความลับการเทรดวงใน!" พวกหลอกลวงมักสร้างกลุ่มลงทุนปลอมบนแพลตฟอร์มอย่าง WhatsApp Telegram หรือ Facebook โดยเชิญชวนผู้คนด้วยคำสัญญาว่าจะได้ผลตอบแทนสูงและข้อมูล "วงใน"
เมื่อเข้าไปในกลุ่ม คุณจะเห็นคนที่ดูเหมือนเป็นสมาชิกทั่วไปแต่จริงๆ แล้วเป็นส่วนหนึ่งของการหลอกลวง พวกเขาโพสต์ข้อความเช่น "เพิ่งทำเงินได้ 5,000 ดอลลาร์!" หรือ "นี่คือคำแนะนำการลงทุนที่ดีที่สุดที่ฉันเคยได้รับ!" คำรับรองปลอมๆ เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้กลุ่มดูน่าเชื่อถือ ทำให้สมาชิกใหม่เชื่อว่าผู้นำกลุ่มหรือ "กูรู" มีประวัติที่พิสูจน์แล้วในการเลือกหุ้นที่ชนะและดีมากๆ
ในตอนแรก คุณอาจเห็นกำไรเล็กน้อยจากหุ้นที่แนะนำเพื่อสร้างความมั่นใจของคุณ แต่ทันทีที่คุณตัดสินใจลงทุนเงินก้อนใหญ่ สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป ทันใดนั้นแพลตฟอร์มการลงทุนอาจเรียกร้อง "ค่าธรรมเนียมการปลดล็อก" เพื่อเข้าถึงเงินของคุณ หรือแพลตฟอร์มทั้งหมดอาจหายไปในชั่วข้ามคืน พร้อมกับผู้นำกลุ่มและเงินของคุณ
ที่มา: Reddit
3. โฆษณาปลอมใช้คนดังหรือดารา
ลองคิดดู: คนดังเหล่านี้ยุ่งมากกับอาชีพของพวกเขา เป็นไปได้จริงหรือที่พวกเขาจะจัดการกลุ่มแชทเกี่ยวกับตลาดหุ้นด้วยตัวเอง แจกเคล็ดลับฟรีให้คนแปลกหน้าทุกวัน? นี่เป็นสัญญาณเตือนชัดเจนและควรทำให้คุณสงสัยถึงความน่าเชื่อถือของโอกาสการลงทุนนี้
ตัวอย่างทั่วไปคือการใช้ภาพของริชาร์ด แบรนสัน นักธุรกิจชาวอังกฤษในโฆษณาออนไลน์ปลอมที่เป็นกลโกงคริปโตเคอร์เรนซี โฆษณาเหล่านี้มักอ้างว่าแบรนสันสนับสนุน "แพลตฟอร์มการเทรดบิตคอยน์" ที่สัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนสูง อย่างไรก็ตาม แบรนสันได้ประกาศต่อสาธารณะแล้วว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการเหล่านี้ และเตือนให้ผู้คนระมัดระวัง
Richard Branson: How to spot a scam before it’s too late
เมื่อเร็วๆ นี้ ยังมีการสตรีมสดปลอมบน YouTube ที่พวกหลอกลวงแอบอ้างเป็นอีลอน มัสก์ โดยใช้เทคโนโลยี deepfake ขั้นสูงเพื่อโปรโมตงานคริปโตเคอร์เรนซีหลอกลวง การสตรีมสดนี้มีเป้าหมายเพื่อหลอกผู้ชมให้ส่งคริปโตเคอร์เรนซีของพวกเขาไปที่บัญชีมิจฉาชีพ โดยมีผู้ชมรับชมพร้อมกันสูงถึง 30,000 คน อ่านเรื่องราวของการหลอกลงทุนของ อีลอน มัสก์ ปลอม ที่นี่
จำไว้ว่า คนดังอย่างอีลอน มัสก์ เจฟฟ์ เบโซส หรือวอร์เรน บัฟเฟตต์ จะไม่เสนอโอกาสการลงทุนลับให้กับคนแปลกหน้าทางออนไลน์ ตรวจสอบความถูกต้องของการลงทุนโดยการเช็กช่องทางติดต่ออย่างเป็นทางการหรือปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงินที่น่าเชื่อถือเสมอ
วิธีสังเกตการหลอกลงทุน
1. ระวังคำว่า "ผลตอบแทนสูงที่รับประกันได้"
การลงทุนที่ถูกต้องทุกประเภทมีความเสี่ยง—ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า "ผลกำไรที่รับประกัน" หรือ "ผลตอบแทนสูงโดยไม่มีความเสี่ยง" มิจฉาชีพมักใช้วลีเหล่านี้เพื่อล่อลวงคุณ โดยอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูงแต่ความเสี่ยงต่ำ ยิ่งผลตอบแทนที่สัญญาไว้สูงมากเท่าไร ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องก็มักจะสูงตามไปด้วย หากมีคนเสนอข้อตกลงที่น่าเหลือเชื่อให้คุณ ลองถามตัวเองว่า: ถ้ามันดีจริง ทำไมเขาถึงบอกคุณแทนที่จะเก็บไว้ทำเอง?
สัญญาณเตือนที่ควรระวัง:
ผลตอบแทนที่รับประกัน
ผลตอบแทนสูงแต่ความเสี่ยงต่ำ
สัญญาว่าจะได้กำไรโดยไม่มีความเสี่ยงใดๆ
2. "การถอนเงินต้องเสียค่าธรรมเนียม" เป็นกับดัก
แพลตฟอร์มการลงทุนที่ฉ้อโกงจำนวนมากอาจดูถูกต้องในช่วงแรก แต่เมื่อคุณพยายามถอนเงิน คุณอาจพบค่าธรรมเนียมที่ไม่คาดคิด มิจฉาชีพมักจะแจ้งค่าธรรมเนียมเช่น "ค่าธรรมเนียมการดำเนินการ" หรือ "ค่าธรรมเนียมการเปิดการใช้งาน" ที่คุณต้องจ่ายก่อนจึงจะสามารถเข้าถึงเงินของคุณได้ ค่าธรรมเนียมเหล่านี้มักถูกนำเสนอว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการปล่อยหรือการดำเนินการเงินของคุณ
แพลตฟอร์มการลงทุนที่ถูกต้องตามกฎหมายมักจะรวมค่าธรรมเนียมทั้งหมดไว้ในค่าบริการหรือค่าธรรมเนียมการซื้อขายแล้ว และจะไม่เรียกเก็บเงินเพิ่มเติมเพื่อถอนเงินของคุณ หากคุณเจอการเรียกร้องการชำระเงินเพิ่มเติมที่ดูไม่ปกติหรือมากเกินไป นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าแพลตฟอร์มนี้อาจเป็นการหลอกลวง ควรตรวจสอบความถูกต้องของแพลตฟอร์มและโครงสร้างค่าธรรมเนียมก่อนที่จะทำธุรกรรมการเงินใดๆ
3. ตรวจสอบทุกครั้งก่อนการลงทุน
ก่อนทำการลงทุนใดๆ ตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มได้รับการจดทะเบียนกับหน่วยงานกำกับดูแลที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ประเทศไทย U.S. Securities and Exchange Commission (SEC) หรือ Financial Conduct Authority (FCA) ในสหราชอาณาจักร หน่วยงานเหล่านี้เก็บรายชื่อของโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตและคำเตือนเกี่ยวกับการหลอกลวงที่ทราบแล้ว
คุณยังสามารถใช้เว็บไซต์คุ้มครองผู้บริโภค เช่น Better Business Bureau (BBB) เพื่อดูรีวิวหรือคำร้องเรียนเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ ค้นหาชื่อแพลตฟอร์มพร้อมคำเช่น "หลอกลวง" หรือ "ฉ้อโกง" เพื่อดูว่ามีคำเตือนหรือรายงานเชิงลบจากผู้ใช้อื่นหรือไม่
สุดท้าย ตรวจสอบแหล่งข้อมูลของตำรวจหรือสำนักข่าวเพื่อดูคำเตือนล่าสุดหรือสัญญาณเตือนเกี่ยวกับแพลตฟอร์มหรือผลิตภัณฑ์การลงทุนที่คุณกำลังพิจารณาอยู่
4. ใช้ Whoscall เพื่อป้องกันการหลอกลวงอย่างครอบคลุม
- ระบุข้อความที่น่าสงสัยได้ทันที
Whoscall ไม่เพียงแค่ระบุสายเรียกเข้า—แต่ยังเป็นเครื่องมือป้องกันการหลอกลวงแบบครอบคลุม หากคุณได้รับข้อความที่น่าสงสัย เพียงแค่คัดลอกหมายเลขผู้ส่งลงใน Whoscall เพื่อยืนยันตัวตนของพวกเขา สำหรับผู้ใช้ Whoscall Premium แอปจะกรองและเตือนข้อความที่มีความเสี่ยงสูงโดยอัตโนมัติ ให้การป้องกันสองชั้นเพื่อความสบายใจของคุณ
- ตรวจจับเว็บไซต์การลงทุนปลอมได้อย่างรวดเร็ว
ด้วยฟีเจอร์ "Auto Web Checker" ของ Whoscall คุณสามารถท่องเว็บได้อย่างสบายใจ ฟีเจอร์นี้จะสแกนเว็บไซต์แบบเรียลไทม์ขณะที่คุณใช้งาน และเตือนคุณทันทีหากพบเว็บไซต์ที่อาจเป็นอันตราย ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงแผนการลงทุนที่หลอกลวงได้
อยู่ห่างจากการหลอกลวงด้วยฟีเจอร์ต่างๆของ Whoscall ที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณปลอดภัยจากการฉ้อโกงของมิจฉาชีพ
👉 ติดตั้งหรืออัปเดต Whoscall ฟรีตอนนี้:https://app.adjust.com/1dzrm7nx
